|
28 มีนาคม 2567
|
อา |
จ. |
อ. |
พ. |
พฤ |
ศ. |
ส. |
| | | | |
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
6 |
7 |
8 |
9 |
10 |
11 |
12 |
13 |
14 |
15 |
16 |
17 |
18 |
19 |
20 |
21 |
22 |
23 |
24 |
25 |
26 |
27 |
28 |
29 |
30 |
31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ข่าวกิจกรรม
|
|
ฝึกประสบการณ์ สร้างความรู้และมุมมองใหม่
|
|
สำหรับสิ่งที่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้จากการได้มาฝึกสหกิจศึกษาที่มูลนิธิพัฒนาอีสานเป็นระยะเวลา 3 เดือน 3 สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2558 – วันที่ 1 พฤษภาคม 2558 ได้รับประสบการณ์หลากหลายเรื่องราวและหลากหลายประเด็น คือ
1. แนวคิด และวิธีการทำงานขององค์กร
-ได้รับประสบการณ์ในด้านการทำงานที่หลากหลายรูปแบบในด้านของการลงพื้นที่ศึกษาชุมชน ในเรื่องของการเข้าร่วมหรือการจัดเวทีพูดคุยในประเด็นต่างๆ รวมทั้งเรียนรู้แนวคิด วิธีการทำงานของแต่ละงาน
-การส่งเสริมและสนับสนุนให้ชุมชนเกิดการเรียนรู้ โดยไม่หวังผลกำไร เช่นกรณีการส่งเสริมเรื่องการใช้เตาแกลบ โซล่าเซลล์ ซึ่งชอบแนวคิดที่องค์กรมุ่งเน้นให้คนในชุมชนหรือบุคคลที่มีความสนใจใฝ่เรียนรู้และฝึกฝน แทนที่จะคอยพึ่งพาปัจจัยหลายอย่างทั้งที่เรื่องบางหากคนเราเรียนรู้และตั้งใจที่จะทำก็สามารถทำได้ถึงแม้ว่าในครั้งแรกอาจจะได้ผลที่ออกมาดีหรือไม่ดีก็ตามแต่ทว่าในครั้งต่อๆไปก็จะทำให้เราจำได้และสามารถนำมาคิดต่อหรือประยุกต์งานชิ้นนั้นออกมาได้ในระดับดี คือแนวคิดการทำงานแบบนี้เป็นการมองการณ์ไกล เน้นการพึ่งตนเองซึ่งสวนกระแสกับสังคมที่รวดเร็วในปัจจุบันที่สังคมปัจจุบันมีปัจจัยหลายด้านที่ส่งผลให้ผู้คนรักความสะดวกสบายพึ่งแต่ปัจจัยภายนอกจนลืมพึ่งตนเอง
2. การใช้ชีวิตในการทำงาน
- ได้รู้จักปรับตัวในการใช้ชีวิตการทำงาน จากการที่เรียนในห้องเรียนสี่เหลี่ยมร่วมกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนในรั้วมหาลัย หรือแม้แต่การทำกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัยหรือนอกรั้วมหาวิทยาลัยต้องปรับตัวเองมาสู่ชีวิตการทำงานจริงซึ่งย่อมมีความแตกต่างแต่เราก็สามารถเรียนรู้และสามารถที่จะปรับตัวได้ ในเรื่องของการปฏิบัติต่อกันในการทำงานซึ่งแตกต่างกันเพราะในห้องเรียนคือรุ่นเพื่อนทั้งหมดแต่ในการทำงานมีผู้ใหญ่หลายวัยและเป็นผู้ที่มากด้วยประสบการณ์
- ได้รู้จักเปิดใจในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆของชีวิตการทำงาน
- ได้เรียนรู้และได้รับประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับผู้อื่นคือการเรียนรู้ตั้งแต่การเป็นผู้เข้าร่วมงานว่าจะต้องเรียนรู้และปรับตัวอย่างไร การทำงานเรียนรู้จากแต่ละฝ่ายแต่ละความถนัดของงานนั้นๆ
- ได้รู้จักการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีทั้งกับผู้อื่นและกับตนเองในการทำงาน คือการสร้างความสัมพันธ์จากการยิ้มไหว้ทักทาย และพูดคุยเพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดในองค์กร
- ได้เปิดโลกทัศน์และมุมมองใหม่ๆในการทำงาน
3.เรียนรู้ศึกษาชุมชน
- ได้นำทฤษฎีที่ศึกษามาปรับใช้ในการลงชุมชนอย่างการวิเคราะห์ชุมชน คือในการวิเคราะห์ชุมชนต้องมีการศึกษาบริบทชุมชน ศึกษาด้านวัฒนธรรมประเพณี ศึกษาการเมือง เป็นต้น
- เรียนรู้วัฒนธรรมประเพณี จากการลงชุมชนในพื้นที่อีสานใต้ ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกินที่มีบางชนิดที่เป็นเอกลักษณ์และการใช้ภาษาท้องถิ่น คือ ภาษาเขมร
- ได้สัมผัสกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงในชุมชน กรณีผลกระทบจากโรงไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งมีผลกระทบด้านเสียงรบกวน ฝุ่นละออง กลิ่นที่ชัดเจน
- มีโอกาสได้ร่วมงานบุญของชุมชนได้เห็นบรรยากาศความร่วมมือร่วมใจของคนในชุมชน
- ได้รับความสัมพันธ์อันดีกับผู้คนในชุมชนและผูกพันกับครอบครัวที่ได้ไปพักอาศัยซึ่งให้ความรักความอบอุ่นเสมือนเป็นหนึ่งในสมาชิกครอบครัวของชุมชน
4.เรียนรู้เรื่องพลังงานทางเลือกและได้ฝึกปฏิบัติจริง
รู้จักและเข้าใจเรื่องพลังงานทางเลือกมากขึ้น จากที่แต่ก่อนไม่ได้ให้ความสนใจเลยและไม่เคยศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับพลังงานทางเลือกทำให้ได้เปิดแนวคิดและมุมมองใหม่ๆสำหรับคนที่ไม่เคยได้ตระหนักอย่างตัวข้าพเจ้าอย่างเช่นเรื่องของพลังงานแสงอาทิตย์ได้ความรู้ได้ศึกษาและได้สัมผัสส่วนเรื่องเตาเผาถ่านอนุรักษ์พลังงานได้ฝึกปฏิบัติจริงได้เห็นความผิดพลาดของตนเองเมื่อทำในครั้งแรกไม่สำเร็จและได้ลองทำใหม่เพื่อแก้ไขให้งานออกมาสำเร็จและเทคโนโลยีเตาแกลบ ที่ไม่เคยได้เรียนรู้มาก่อน
เกษตรอินทรีย์ที่ทางมูลนิธิได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เช่นกัน ทำให้ได้มองมุมที่ไม่ได้มองมาก่อนและจุดประกายความคิดอยากจะสร้างสรรค์งานที่ดีต่อไปในอนาคต เกิดความคิดแม้กระทั่งว่าอยากจะนำไปเป็นแนวทางให้กับชุมชนที่ตนได้ไปทำงานในอนาคตหากได้ทำงานด้านพัฒนาชุมชนหรือไม่ได้ทำก็ตาม
นางสาวพรไพลิน แก้ววังปา นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
สาขาวิชาการจัดการการพัฒนาสังคม มหาวิทยาลัยขอนแก่น |
|
|
|