|
18 เมษายน 2567
|
อา |
จ. |
อ. |
พ. |
พฤ |
ศ. |
ส. |
|
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
6 |
7 |
8 |
9 |
10 |
11 |
12 |
13 |
14 |
15 |
16 |
17 |
18 |
19 |
20 |
21 |
22 |
23 |
24 |
25 |
26 |
27 |
28 |
29 |
30 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ข่าวกิจกรรม
|
|
“โคกเบง” พื้นที่แห่งการเรียนรู้ของฉัน
|
|
“เราจะไปบ้านนอกคอกนา เราจะไปบ้านป่านาดอน เราจะไปอยู่กับเขา พวกของเราจะไปเร่ร่อน” เพลงบ้านนอกคอกนา เพลงประจำสำนักบัณฑิตอาสาสมัครดังก้องอยู่ในโสตประสาทของการเดินทางวันแรกจากสถานีขนส่งหมอชิต ไปยังบขส.สุรินทร์ ชีวิตบัณฑิตอาสาสมัครในพื้นที่สนามได้เริ่มต้นขึ้นแล้วสินะ.... ในวันแรกของการใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ปฏิบัติงานสนาม ข้าพเจ้าได้พักร่วมกับครอบครัวคุณน้ารุ่งนภา บึงจันทร์ ประธานตลาดนัดสีเขียวตำบลแนงมุด รวมทั้งน้ารุ่งยังเป็นประธานกลุ่มอาชีพในหมู่บ้านอีกด้วย
ในช่วงแรกของการปรับตัวในชุมชน ข้าพเจ้ามีความรู้สึกหลากหลาย ทั้งตื่นเต้น กังวล และกลัว เนื่องจากไม่เคยมีประสบการณ์ด้านการเกษตรมาก่อน การมาในพื้นที่ของการทำการเกษตรแบบผสมผสาน การรวมกลุ่มของชาวบ้านที่เข้มแข็ง นับเป็นเรื่องที่ใหม่และท้าทายสำหรับข้าพเจ้าเป็นอย่างมาก เกิดคำถามต่างๆในใจว่าชาวบ้านมีองค์ความรู้การทำเกษตรที่หลากหลายอยู่แล้ว เก่งกว่าเราอีก แล้วเราจะสามารถทำประโยชน์อะไรกับชุมชนได้บ้าง? จะเป็นตัวถ่วงในชุมชนหรือไม่? จะสามารถปรับตัวให้เข้ากับชาวบ้านและครอบครัวอุปถัมภ์ได้หรือไม่? จะอยู่ในพื้นที่ครบ 7 เดือนหรือไม่?
แต่แล้ว การใช้ชีวิตในชุมชนของข้าพเจ้าก็ผ่านไปด้วยดี ข้าพเจ้าพยายามนำคำถามเหล่านั้นมาเป็นแผนการใช้ชีวิตในชุมชน พยายามเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ ครอบครัวไปไหนเราไปด้วย ชาวบ้านทำอะไรเราไปร่วมด้วย หมั่นทำความรู้จัก ทักทายกับชาวบ้าน ทักทายลูกค้าที่มาซื้อผักในตลาดนัดสีเขียว ซึ่งนับเป็นความโชคดีที่ข้าพเจ้าได้รับโอกาสจากครอบครัวน้ารุ่งนภา บึงจันทร์ และจากพี่น้องบ้านโคกเบง พี่น้องตลาดนัดสีเขียว ให้ได้เรียนรู้ ลองผิดลองถูกจากการปฏิบัติจริงถึงแม้จะมีผิดบ้างถูกบ้างแต่ก็เป็นสิ่งที่ดีที่ทำให้ได้เรียนรู้และพัฒนาตนเอง สิ่งไหนไม่เคยทำไม่เคยเห็นมาก่อนก็ได้ลงมือทำ ได้ประสบพบเจอด้วยตนเอง ที่สำคัญคือต้องเป็นตัวของตัวเอง ข้าพเจ้าเชื่อว่าหากเราเป็นตัวของตัวเองแล้วเราจะทำสิ่งนั้นได้นานและมีความสุขกับการทำงาน
7 เดือนของการใช้ชีวิตภาคสนามผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผ่านประสบการณ์ที่มีทั้งสุข ทุกข์ เศร้า เหงา คละเคล้าปนกันไป แต่ข้าพเจ้าก็เรียนรู้วิธีการจัดการกับความรู้สึกเหล่านั้น โดยออกไปพบปะผู้คน การพูดคุย การได้ลองทำสิ่งใหม่ๆในทุกๆวัน เพื่อไม่ให้ความรู้สึกเหล่านั้นกลับคืนมา
ว่ากันว่า เวลาแห่งความสุขมักผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ คนที่ผ่านเข้ามาทำให้ได้รู้จัก ได้เรียนรู้ร่วมกัน ได้มีประสบการณ์ดีๆและทุกข์ร่วมกัน เหตุการณ์ ประสบการณ์ต่างๆในระยะเวลา 7 เดือน นับเป็นสิ่งที่มีค่าที่ประเมินมิได้และหล่อหลอมให้ข้าพเจ้าเป็นตัวเองเช่นปัจจุบันนี้
ขอขอบคุณมูลนิธิพัฒนาอีสาน ขอบคุณพี่น้องบ้านโคกเบง ขอบคุณพี่น้องชาวตลาดเขียวและพี่ๆอบต.แนง มุด ที่ได้ให้โอกาสข้าพเจ้าได้เข้ามาเรียนรู้บนถนนเส้นทางสายการพัฒนา ทำให้ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ตัวเอง เรียนรู้ผู้อื่น และทำให้ข้าพเจ้าย้ำเตือนตัวเองเสมอว่า อาสาสมัครไม่ใช่ฮีโร่ที่จะเปลี่ยนแปลงสังคม แต่เป็นเพียงจุดเล็กๆจุดหนึ่งที่จะสร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่ ดังคำกล่าวที่ว่า “ให้ปลาฉันหนึ่งตัว ฉันมีปลากินแค่หนึ่งวัน สอนให้ฉันหาปลา ฉันมีปลากินตลอดไป”
ชฎาพร ไชยมาลา
บัณฑิตอาสาสมัครรุ่นที่ 46 |
|
|
|